5 วิธีเลือกซื้อผ้าไหมทอมือ

1.ตรวจสอบว่าใช่ผ้าไหมแท้หรือไหมเทียม โดยทั่วไปมักเอาใยไหมที่ขาดจากตัวผืนมาลองจุดไฟดู
ว่ามีลักษณะการไหม้อย่างไรบ้าง แต่สำหรับผู้เขียนขอแนะนำให้เลือกซื้อผ้าไหมกับร้านที่ไว้ใจได้ครับ หรือซื้อจากชุมชนที่ผลิตโดยตรง มีมาตรฐานรองรับจะทำให้เราได้ผ้าที่มีคุณภาพ

2.ตรวจสอบเนื้อผ้าว่ามีความแน่นของการทอหรือไม่ ผ้ามีหลายรูปแบบด้วยกันความแน่นของผ้าเราต้องเลือกให้เหมาะสม
เพราะบางทีการทออาจใช้เส้นยืน เส้นพุ่ง น้อยเกินไปทำให้ผ้าไม่หนา และบาง ไม่เหมาะต่อการนำมาสวมใส่ เราควรเลือกให้ดีนะครับ
โดยเทคนิคคือยกใส่แสงแดด หากไม่มีแสงแดดส่องผ่าน แสดงว่าหนามาก ถ้าใส่ในฤดูร้อนอาจทำให้ร้อนเกินไปได้

แม่บัวเงิน ธงศรี แนะนำการเลือกซื้อผ้าไหม ภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรีแม่บัวเงิน ธงศรี แนะนำการเลือกซื้อผ้าไหม ภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี

3.สีของผ้าไหมควรสม่ำเสมอตามเทคนิคของการทอ เพราะไหมอีสานมีเทคนิคการทอที่หลากหลาย เช่น การมัดหมี่สีอาจไม่สม่ำเสมอทั้งหมด
แต่ก็จะออกมาเป็นลายที่งดงาม ผู้ที่เลือกซื้อต้องพิจารณาถึงความสวยงาม และเหมาะสม โดยปกติหากเป็นผ้าขิดจะต้องมีสีเสมอกันทั้งหมดไม่มีสีด่าง หรือไม่สม่ำเสมอกัน

4.ตรงตามวัตถุประสงค์ของการใช้ผ้า เพราะผ้าไหมมีหลายแบบหากเป็นผ้าซิ่น ผ้าวา ผ้าตุ้ม ควรเลือกให้ถูกและออกแบบให้เหมาะกับลวดลายของผ้า
เพื่อให้ออกมาสวยงามเหมาะสม ผ้าบางผืน บางลายอาจมีลักษณะแตกต่างกันไป เช่น ผ้าตุ้มอาจเหมาะกับการนำมาห่ม นำมาเบี่ยงไหล่
ผ้าโสร่งเหมาะกับการนุ่งของผู้ชาย ทั้งหมดนี้สามารถออกแบบได้ตามความเหมาะสมและความสวยงามครับ

ผ้าไหมสวยงาม ภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรีผ้าไหมสวยงาม ภาพถ่ายโดย ภาณุพงศ์ ธงศรี

5.เนื้อผ้ามีความแข็ง และเมื่อส่องใส่แดดมีความวาว เพราะเป็นผ้าที่ยังไม่ผ่านการซัก บ่งบอกว่าผืนนี้ยังไม่เคยถูกนำมาใช้
เมื่อซื้อไปแล้วควรซักด้วยสบู่ จากนั้นผึ่งแดดที่ไม่ร้อนมาก ให้ผ้าไหมแห้งเก็บรักษาในตู้หรืออาจหาถุงพลาสติกมาใส่ป้องกันหนู หรือแมลงสาบมากัดนะครับ

ติดต่อสอบถาม